วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา


   ชนะแล้ว! บารัค โอบามา นั่งผู้นำสหรัฐฯ ต่อ หลังคะแนนทิ้งห่าง รอมนีย์ 303 ต่อ 203 เสียงแล้ว

หลังจากคนทั่วโลกรอลุ้นผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด ล่าสุด ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ปรากฏออกมาแล้วอย่างไม่เป็นทางการว่า นายบารัค โอบามา ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ และได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 สร้างประวัติศาสตร์การเป็นประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตที่ชนะการเลือกตั้ง 2 สมัย นับตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

โดยจากการรายงานผลการเลือกตั้งล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 7 พฤศจิกายน ตามเวลาประเทศไทย ปรากฏออกมาว่า นายบารัค โอบามา คว้าคะแนนเสียงอิเล็กทอรัล หรือคะแนนเสียงจากคณะเลือกตั้งทั่วสหรัฐฯ ไป 303 เสียง จากทั้งหมด 538 เสียง นับเป็นจำนวนเกินครึ่งแล้ว และกินขาด ขณะที่คะแนนเสียงล่าสุดของนายมิตต์ รอมนีย์ อยู่ที่ 203 เสียง ซึ่งแน่นอนว่า แม้ว่าอีกหลายรัฐที่ยังไม่ได้นับคะแนนเสียง จะเทคะแนนให้รอมนีย์ทั้งหมด รอมนีย์ก็ไม่มีทางตามบารัค โอบามาได้ทัน

ทั้งนี้ สรุปผลการนับคะแนนเสียงอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏออกมาว่า บารัค โอบามา ชนะเลือกตั้งจากรัฐแคลิฟอร์เนีย (55 เสียง), รัฐโคโลราโด ( 9เสียง), รัฐคอนเนตทิคัต (7 เสียง), รัฐเดลาแวร์ (3 เสียง), รัฐฮาวาย (4 เสียง), รัฐอิลลินอยส์ (20 เสียง), รัฐแมสซาชูเซตส์ (11 เสียง), รัฐแมรีแลนด์ (10 เสียง), รัฐมิชิแกน (16 เสียง), รัฐมินนิโซตา (10 เสียง), รัฐเมน (4 เสียง), รัฐนิวแฮมป์เชียร์ (4 เสียง), รัฐนิวเจอร์ซีย์ (14 เสียง), รัฐนิวเม็กซิโก (5 เสียง), รัฐเนวาดา (6 เสียง) , รัฐนิวยอร์ก (29 เสียง), รัฐโอไฮโอ (18 เสียง), รัฐออริกอน (7 เสียง), รัฐเพนซิลเวเนีย (20 เสียง), รัฐโรดไอแลนด์ (4 เสียง), รัฐเวอร์มอนต์ (3 เสียง), รัฐเวอร์จิเนีย (13 เสียง), และรัฐวิสคอนซิน (10 เสียง), รัฐวอชิงตัน (12 เสียง)

ส่วนนายมิตต์ รอมนีย์ นั้น ชนะเลือกตั้งในรัฐแอละแบมา (9 เสียง), รัฐอะแลสกา (3 เสียง), รัฐแอริโซนา (11 เสียง), รัฐอาร์คันซอ (6 เสียง), รัฐจอร์เจีย (16 เสียง), รัฐไอดาโฮ (4 เสียง), รัฐอินดีแอนา (11 เสียง), รัฐไอโอวา (6 เสียง), รัฐแคนซัส (6 เสียง), รัฐเคนทักกี (6 เสียง), รัฐลุยเซียนา (8 เสียง), รัฐมิสซูรี (10 เสียง), รัฐมิสซิสซิปปี (6 เสียง), รัฐมอนแทนา (3 เสียง), รัฐเนแบรสกา (5 เสียง), รัฐนอร์ทดาโคตา (3 เสียง), รัฐนอร์ทแคโรไลนา (15 เสียง), รัฐโอคลาโฮมา (7 เสียง), รัฐเซาท์แคโรไลนา (9 เสียง), รัฐเซาท์ดาโคตา (3 เสียง), รัฐเทนเนสซี (11 เสียง), รัฐเทกซัส (38 เสียง), รัฐยูทาห์ (6 เสียง), รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย (5 เสียง), และ รัฐไวโอมิง (3 เสียง)

อย่างไรก็ดี ผลสรุปคะแนนเสียงอย่างเป็นทางการนั้น คาดว่าน่าจะออกมาในวันพรุ่งนี้ (8 พฤศจิกายน)





ชาวเน็ตแห่แชร์ภาพโอบามากอดภริยาเกลื่อนเน็ต หลังคว้าชัยเลือกตั้ง

จากชัยชนะของบารัค โอบามา นี้ ทำให้ประชาชนที่เลือกเขายินดีกันยกใหญ่ แต่งานนี้คงไม่มีใครดีอกดีใจได้เท่าเจ้าตัวแล้ว โดยหลังจากที่ผลการนับคะแนนปรากฏออกมา ทีมงานเบื้องหลังความสำเร็จของบารัค โอบามา ก็ได้เผยภาพตอนเขากอดภริยา ก่อนภาพดังกล่าวจะถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็ว

โดยภาพถ่ายดังกล่าว ถูกเผยแพร่ออกมาจากทวิตเตอร์ของบารัค โอบามา เอง เป็นภาพขณะที่ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาสมัยที่ 2 กำลังกอดมิเชล โอบามา สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข พร้อมระบุชื่อภาพว่า "ดำรงตำแหน่งต่ออีก 4 ปี" ซึ่งภาพนี้ ถูกรีทวีตและเผยแพร่ต่อตามโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างกว้างขวาง จนกลายเป็นภาพที่มีการรีทวีตมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาด้วย

ทั้งนี้ สำหรับภาพถ่ายดังกล่าว ถูกรีทวีตไปแล้วมากกว่า 400,000 ครั้ง ภายในไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น และเชื่อว่าจะถูกรีทวีตต่อไปอีกเรื่อย ๆ ขณะที่หลังจากชนะการเลือกตั้งแล้ว บารัค โอบามา ก็ได้มีการทวีตข้อความขอบคุณชาวอเมริกันทั้งหลาย ว่า "ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะพวกคุณ ขอบคุณมากครับ" อีกด้
วย



โอบามาเตรียมกล่าวสุนทรพจน์ที่ชิคาโก

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานหลังรู้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กำลังเตรียมกล่าวสุนทรพจน์ที่นครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ของสหรัฐฯ เพื่อขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจ เลือกให้เขาเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 หลังจากที่ได้ทวีตขอบคุณประชาชนชาวอเมริกันไปแล้ว ขณะที่บรรยากาศของกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต ต่างเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ความสุข ความดีใจ

ส่วนทางด้านผู้แพ้การเลือกตั้งอย่างมิตต์ รอมนีย์ นั้น กลุ่มผู้สนับสนุนพรรครีพับริกันต่างโอบกอด ร่ำไห้ และกอดคอปลอบใจกันอย่างเงียบเหงา แต่อย่างไรก็ดี
มิตต์ รอมนีย์ จะขึ้นกลุ่มสุนทรพจน์ยอมรับความพ่ายแพ้ รวมถึงแสดงความยินดีต่อบารัค โอบามา เช่นกัน



รอมนีย์ แถลงยอมรับพ่ายแพ้-ยินดีโอบามา

นายมิตต์ รอมนีย์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ว่า ต้องพ่ายแพ้ให้กับ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา จากเดโมแครต ไปแบบขาดลอย โดยเขาได้ออกมากล่าวกับผู้สนับสนุนในนครบอสตัน ยอมรับในความปราชัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงขอบคุณผู้สนับสนุน ที่ให้กำลังใจมาโดยตลอด พร้อมกับแสดงความยินดีต่อ โอบามา ที่ได้นั่งในตำแหน่งผู้นำประเทศต่อไปอีก 4 ปี

ในขณะที่ทางฝั่งผู้สนับสนุนของ นายโอบามา และพรรคเดโมแครต ตามเมืองต่าง ๆ ก็ได้ออกมาแสดงความยินดี ในชัยชนะครั้งนี้กันอย่างพร้อ
มเพรียงกัน



เกาะติดเลือกตั้งสหรัฐฯ โอบามา - รอมนีย์ คะแนนสูสี

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนว่า บรรยากาศการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นไปอย่างคึกคัก และขณะนี้หลายรัฐได้ทยอยปิดหีบไปแล้ว ประชาชนกำลังรอลุ้นผลการเลือกตั้งกันอย่างใจจดใจจ่อ พอ ๆ กับสื่อมวลชนทั่วโลกที่มีการติดตามความเคลื่อนไหวของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างไม่คลาดสายตา
รายงานระบุว่า เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 6 พฤศจิกายนตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 7.00 น. ของวันนี้ตามเวลาประเทศไทย หลายรัฐในสหรัฐฯ ได้ทยอยปิดหีบเลือกตั้งไปแล้ว และกำลังรอลุ้นผลการนับคะแนนกันอยู่ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มรู้ผลการเลือกตั้งหลายพื้นที่ในช่วงสายของวันนี้ ก่อนที่จะมีการทยอยปิดหีบเลือกตั้งไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งสิ้นสุดที่รัฐอะลาสก้า ซึ่งเป็นรัฐสุดท้ายที่จะมีการปิดหีบในเวลา 01.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 13.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

อย่างไรก็ดี แม้ว่าผลการเลือกตั้งยังไม่ปรากฏออกมาอย่างเป็นทางการ แต่จากการสำรวจคะแนนโหวตในหลายพื้นที่ พบว่า บารัค โอบามา และมิตต์ รอมนีย์ มีคะแนนสูสีกันอยู่ ทั้งผลโหวตจากประชาชนโดยตรง และจากคณะเลือกตั้ง โดยผลโหวตจากประชาชนหรือป็อปปูลาร์โหวตนั้น ปรากฏออกมาว่า ประชาชนเทคะแนนให้กับมิตต์ รอมนีย์ มากกว่า คือ 52% ส่วนบารัค โอบามา นั้น คะแนนป็อปปูลาร์โหวตอยู่ที่ 48% ขณะที่ผลโหวตจากคณะผู้เลือกตั้งหรืออิเล็กทอรัลโหวต ซึ่งยึดเป็นหลักในการตัดสินเลือกตั้งนั้น รอมนีย์และโอบามายังคงผลัดกันนำ เรียกว่าดุเดือดน่าลุ้นสุด ๆ โดยผลการนับคะแนนล่าสุด เป็นดังนี้

11.20 น. คะแนนนำโด่งทะลุ 270 แล้ว โอบามา 275 ส่วนรอมนีย์ยังอยู่ที่ 203 คะแนน
11.15 น.
โอบามายังคงนำรอมนีย์ที่ 250 ต่อ 203 คะแนน
11.00 น. โอบามาเริ่มทิ้งห่างรอมนีย์แล้ว ที่ 244 ต่อ 193 คะแนน
10.50 น. รอมนีย์ผลิกโผ คะแนนนำโอบามาแบบเฉียดฉิว ที่ 174 ต่อ 173 คะแนน


10.30 น. โอบามาตีตื้นชนะรอมนีย์ที่คะแนน 173 ต่อ 163 คะแนน

09.45 น. รอมนีย์ คะแนนทิ้งห่างโอบามาอยู่มาก ที่ 146 ต่อ 109 คะแนน

09.00 น. รอมนีย์ มีคะแนน 73 คะแนน นำห่าง โอบามาซึ่งได้ 64 คะแนน


ทั้งนี้ สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้ชนะจะต้องได้คะแนนเสียงอิเล็คทอรัลโหวตไม่ต่ำกว่า 270 เสียง จากทั้งหมด 538 เสียงทั่วประเทศ ไม่ใช่คะแนนเสียงป็อปปูลาร์โหวตจากประชาชน ซึ่งถ้าหากครั้งนี้ โอบามา หรือรอมนีย์ ชนะเพียงคะแนนเสียงอิเล็กทอรัลโหวต เขาก็จะได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแบบที่ไม่สามารถชนะป็อปปูลาร์โหวตได้นั่นเอง ส่วนคณะเลือกตั้งทั้งหมด 538 เสียงทั่วประเทศนั้น แยกตามรัฐได้ดังนี้

รัฐแอละแบมา (9 เสียง)
รัฐอะแลสกา (3 เสียง)
รัฐแอริโซนา (11 เสียง)
รัฐอาร์คันซอ (6 เสียง)
รัฐแคลิฟอร์เนีย (55 เสียง)
รัฐโคโลราโด ( 9เสียง)
รัฐคอนเนตทิคัต (7 เสียง)
รัฐเดลาแวร์ (3 เสียง)
รัฐฟลอริดา (29 เสียง)
รัฐจอร์เจีย (16 เสียง)
รัฐฮาวาย (4 เสียง)
รัฐไอดาโฮ (4 เสียง)
รัฐอิลลินอยส์ (20 เสียง)
รัฐอินดีแอนา (11 เสียง)
รัฐไอโอวา (6 เสียง)
รัฐแคนซัส (6 เสียง)
รัฐเคนทักกี (6 เสียง)
รัฐลุยเซียนา (8 เสียง)
รัฐเมน (4 เสียง)
รัฐแมรีแลนด์ (10 เสียง)
รัฐแมสซาชูเซตส์ (11 เสียง)
รัฐมิชิแกน (16 เสียง)
รัฐมินนิโซตา (10 เสียง)
รัฐมิสซิสซิปปี (6 เสียง)
รัฐมิสซูรี (10 เสียง)
รัฐมอนแทนา (3 เสียง)
รัฐเนแบรสกา (5 เสียง)
รัฐเนวาดา (6 เสียง)
รัฐนิวแฮมป์เชียร์ (4 เสียง)
รัฐนิวเจอร์ซีย์ (14 เสียง)
รัฐนิวเม็กซิโก (5 เสียง)
รัฐนิวยอร์ก (29 เสียง)
รัฐนอร์ทแคโรไลนา (15 เสียง)
รัฐนอร์ทดาโคตา (3 เสียง)
รัฐโอไฮโอ (18 เสียง)
รัฐโอคลาโฮมา (7 เสียง)
รัฐออริกอน (7 เสียง)
รัฐเพนซิลเวเนีย (20 เสียง)
รัฐโรดไอแลนด์ (4 เสียง)
รัฐเซาท์แคโรไลนา (9 เสียง)
รัฐเซาท์ดาโคตา (3 เสียง)
รัฐเทนเนสซี (11 เสียง)
รัฐเทกซัส (38 เสียง)
รัฐยูทาห์ (6 เสียง)
รัฐเวอร์มอนต์ (3 เสียง)
รัฐเวอร์จิเนีย (13 เสียง)
รัฐวอชิงตัน (12 เสียง)
รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย (5 เสียง)
รัฐวิสคอนซิน (10 เสียง)
รัฐไวโอมิง (3 เสียง)


ประมวลภาพการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 2012



Barack Obama